หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องลงทุนกับ Big Cleaning ในเมื่อก็ทำความสะอาดเองทุกวันแล้ว คำตอบคือการทำความสะอาดทั่วไปและการทำ Big Cleaning มีขอบเขตและผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน
การทำความสะอาดทั่วไป
- ทำเป็นประจำ เช่น กวาดพื้น ถูพื้น เช็ดฝุ่น
- ใช้อุปกรณ์พื้นฐาน
- เก็บเฉพาะสิ่งสกปรกที่มองเห็น
Big Cleaning
- เป็นการทำความสะอาดเชิงลึก ปีละ 1–2 ครั้ง
- ใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น เครื่องดูดไรฝุ่น เครื่องฉีดน้ำแรงดัน
- จัดการกับคราบฝังแน่น ฝุ่นละเอียด และเชื้อโรคที่มองไม่เห็น
ตัวอย่างปัญหาที่การทำความสะอาดทั่วไปแก้ไม่ได้
- คราบหินปูนในห้องน้ำ
- คราบมันในห้องครัวที่สะสมมานาน
- ฝุ่นลึกในพรมและที่นอน
- เชื้อราในร่องยาแนว
สรุป
การทำความสะอาดทั่วไปช่วยให้พื้นที่ดูเรียบร้อย แต่หากต้องการความสะอาดลึกถึงโครงสร้าง Big Cleaning คือคำตอบที่แท้จริง บริษัทพรีเมียมสะอาดพร้อมให้บริการมาตรฐานสูงสุดเพื่อสุขภาพและความสบายใจ



